Google ปรับนโยบาย Site Reputation Abuse สิ้นสุดยุค Parasite SEO?


Son contentmastery.io
Updated: Dec. 3, 2024


Google ปรับนโยบาย SEO เพื่อลดการใช้ "Parasite SEO" บนเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียง แม้แต่เว็บโหด ๆ site authority แรง ๆ อย่าง Forbes, Time... ก็ไม่รอด เหล่าเว็บ affiliate ต้องรีบปรับตัว

Google อัปเดต Site Reputation Abuse เพื่อจัดการกับเว็บไซต์บุคคลที่สาม (Third-party Sites)ใช้ประโยชน์จากโดเมนหรือความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ชื่อดังในการจัดอันดับผลการค้นหา

โดยเว็บไซต์ชื่อดังเช่น Forbes, Time, CNN, และ The Wall Street Journal ได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยปริมาณทราฟฟิกลดลงถึง 97% ในบางกรณี (เช่น Time Stamped)

จากภาพด้านล่างซึ่งเป็น traffic ของเว็บชื่อดังอย่าง Time (ส่วนของ affiliate) ผมใช้ Semrush ในการเช็ค traffic history และพบว่า


Traffic จากหลักล้าน เหลือหลักสิบ!!

Traffic จากหลักล้าน ตกลงเหลือหลักสิบ หรือแทบจะเหลือ 0 เลยก็ว่าได้ ลองจินตนาการว่า นี่ถ้าเป็นธุรกิจของเพื่อน ๆ  แล้ว all in กับเว็บนี้ ... อาจจะถึงกับหมดเนื้อ หมดตัวแน่ ๆ  ครับ เสียหาย ไม่มีชิ้นดี ดังนั้นเราต้อง diversify traffic (กระจาย traffic) หรือรายได้ไปหลาย ๆ ช่องทาง



อันที่จริงถ้าแบบล่าสุดเลยเหลือ 30 ก็คือแทบจะเป็น 0 เลยครับ

คีย์เวิร์ดคำค้นหายอดนิยม เช่น "Best CBD Gummies" และ "Best Pet Insurance (ประกันสัตว์เลี้ยงที่ดีที่สุด)" ซึ่งเคยถูก dominate (ครอบครอง) โดยเว็บไซต์ใหญ่ ๆ มีชื่อเสียงเหล่านี้ ถูกจัดอันดับใหม่โดย Google 


นี่คือ Parasite SEO

Parasite SEO เป็นกลยุทธ์ที่ 3rd-party site ใช้โพสต์คอนเทนต์บนเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียงเพื่อใช้ประโยชน์จาก Ranking Signals ของเว็บไซต์นั้น ๆ เช่น Domain Authority และ backlink ที่โหด ๆ ที่เว็บชื่อดังเหล่านั้น โดยผมเคยเขียนไว้ในบทความ Google Core Update


ผลของ Parasite SEO

ซึ่งการทำแบบนี้มันเกิดอะไรครับ? มันไปขัดขวางเว็บเล็ก ๆ  หรือไม่ได้มีชื่อเสียงมาก ไม่ได้มีงบมากเพื่อโปรโมต ไม่ได้รับการจัดอันดับหรือได้ traffic ที่ควรจะได้ (แต่ทำคอนเทนต์มีคุณภาพหรือมีประโยชน์)

ดังนั้นผลลัพธ์ที่ตามมาคือ user ได้รับประสบการณ์ที่ไม่ดีจากการค้นหา (Bad Search Experience) เนื่องจากคอนเทนต์มักไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เว็บไซต์หลักเชี่ยวชาญ ซึ่งผมก็มองว่าถ้า Google ทำได้ ถือว่าเป็นเรื่องดีเลยแหละครับ


บทวิเคราะห์ 

การจัดการ Parasite SEO มีผลดีต่อ SEO ecosystem โดยรวม โดยการอัปเดตครั้งนี้ถือว่าแฟร์ ๆ ในผลการค้นหา เพราะจะทำให้ลดการใช้เทคนิค Site Reputaion Abuse นั่นแหละครับ เพื่อให้ได้อันดับสูง 

อีกตัวอย่างก็เช่น Forbes Advisor นี่คืออีกเว็บ affiliate ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดเว็บหนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้ครับ ถ้าเราสังเกตให้ดีจะเห็นว่า Forbes นั้นใช้ sub-folder ด้วยครับ /advisor/ ไม่ได้ใช้ sub-domain หรือใช้แยกอีกโดเมน แบบนี้ก็ได้ประโยชน์จากพลังโดเมนเดิมเต็ม ๆ ด้วย 


Forbes Advisor



Traffic drop จาก manual action ของ Google?

ซึ่งจากนโยบายนี้ของ Google จะ ทำให้ธุรกิจขนาดเล็กหรือเว็บไซต์ที่สร้างเนื้อหาคุณภาพแท้จริง จะมีโอกาสมากขึ้นในการแข่งขัน (ขอให้ทำได้จริง ๆ เถอะ)

ซึ่งการที่ Google ออกนโนบายเพื่อเพิ่มความยากลำบากสำหรับเว็บทีอาศัย Site Reputation Abuse ผมก็ขอเพิ่มเติมมุมมองในส่วนต่อไปนี้เพิ่มเติมครับ


1. User ได้ประโยชน์

ผู้ใช้งาน Google จะได้ประสบการณ์การค้นหาที่ดีขึ้นจากคอนเทนต์ที่มีความเกี่ยวข้องและน่าเชื่อถือ ไม่ใช่ garbage หรือ thin content ที่มาจากเว็บใหญ่ ๆ โดเมนแรง ๆ เพียงอย่างเดียวที่ได้ประโยชน์จากพลังโดเมนที่แรงจัด แล้วติดอันดับเฉยในหน้าผลการค้นหา ถึงแม้คอนเทนต์จะกากกว่าเว็บเล็ก ๆ  ที่ทำคอนเทนต์ดี


2. ทำ Affiliate อย่างระมัดระวัง

ธุรกิจที่แนว Affiliate ควรต้องปรับกลยุทธ์ โดยโฟกัสที่คอนเทนต์คุณภาพดีมีประโยชน์ 

อย่างเช่นเว็บ affiliate ของ Time ที่ผมได้โชว์กราฟให้ดูด้านบน traffic จากหลักล้านตอนนี้เหลือหลักสิบ (Time นี่ก็ใช้ sub-folder คือ /shopping/ สไตล์เดียวกับ Forbes Advisor เลยครับ)


ตัวอย่าง affiliate website


3. แล้ว Affiliate จะยังน่าทำอยู่ไหม?

หลายคนที่ผมรู้จัก ยังทำ affiliate ได้เงินเป็นกอบเป็นกำ แต่หลายคนก็ drop ลงไปเช่นกัน และเช่นกันไม่ใช่ทุกเว็บไซต์ที่มีลิงก์ affiliate จะเข้าข่าย Thin Affiliate หากเว็บไซต์นั้นเพิ่มคุณค่า (Add Value) ให้กับคอนเทนต์อย่างแท้จริง (เหมือนที่คลาส Complete Web Marketing ที่ผมจะจัดเต็มให้นักเรียนของผม ขายของเฉย lol) ดังนั้นเว็บไซต์ Affiliate ที่ดีควรเป็นประมาณ

  • ให้ข้อมูลเพิ่มเติม เช่น การเปรียบเทียบราคา
  • รีวิวสินค้าอย่างเป็นกลางด้วยการทดสอบหรือการให้คะแนนที่มีหลักฐาน
  • มีฟีเจอร์ช่วยในการนำทางสินค้า เช่น ตัวกรองสินค้าในหมวดหมู่ต่าง ๆ
  • เปรียบเทียบสินค้าหลายรายการ เพื่อช่วยผู้ใช้งานตัดสินใจ

หรือพูดง่าย ๆ ทำยังไงก็ได้ให้ UX ดี แล้วมอบคุณค่าสิ่งที่ดีมีประโยชน์ให้ user มากที่สุดที่จะทำได้ 

และท้ายที่สุดถ้าจะทำ affilate เป็นไปได้ควรแยกออกจากเว็บไซต์หลักของเรา คือถ้าจะตายก็ควรตายไปเว็บเดียวซะ ไม่ต้องดึงเว็บหลักเราลงเหวไปด้วย เข้าไวออกไว โกยให้ไว โดนปิดก็เปิดใหม่ได้ ไม่เสียหายไรงี้ (คือไม่ต้องไปผูกกับเว็บคุณภาพของเรา) ก็เป็นเช่นนี้แล

โดยโพสต์นี้ก็เป็นทั้งการรีเสิร์ชและความรู้สึกส่วนตัวบางส่วน เพื่อน ๆ ก็อาจจะต้องใช้การวิเคราะห์เพิ่มเติมนะครับ แต่อย่างน้อยผมคิดว่าน่าจะพอให้มุมมองและเป็นประโยชน์บ้างครับ


อ้างอิง

Son contentmastery.io
Son contentmastery.io

ที่ปรึกษาด้าน Web & SEO สำหรับองค์กรและเจ้าของธุรกิจ ชอบเขียนและแชร์ความรู้ เชื่อว่าความรู้คือสิ่งที่มีมูลค่ามากที่สุดและจะติดตัวเราไปในทุกที่ ให้อะไรก็คงไม่เท่าให้ความรู้ หลงไหลในธรรมชาติและการเดินทาง เป็นพ่อของแงว ๆ อยู่หลายตัว เสพติดกาแฟ อเมริกาโน่


อัพสกิล SEO & Web Marketing?

ลดระยะเวลาลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง เรียน SEO ด้วยแนวทางปฎิบัติที่ดีที่สุด (Best Practices) สอนครอบคลุมในทุกมิติ ทั้งด้าน On-Page, Technical, Web Analytics & Report ฯลฯ เพื่อให้ผู้เรียนไปต่อยอดกับเว็บไซต์ธุรกิจของตัวเองได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับองค์กร บริษัทต่าง ๆ