Google Analytics



Google Analytics คือ เครื่องมือวิเคราะห์และติดตามการเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่ให้บริการโดย Google ซึ่งเป็นเครื่องมือที่นิยมและได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในวงการเว็บมากที่สุด การใช้ Google Analytics ช่วยให้นักการตลาดและเจ้าของเว็บไซต์ทำความเข้าใจเกี่ยวกับผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ และประสิทธิภาพของเว็บไซต์ในเชิง SEO ด้วยข้อมูลที่หลากหลาย ทำให้ไม่แปลกใจเลยครับว่า นี่คือหนึ่งในเครื่องมือยอดนิยมที่สุดสำหรับการวิเคราะห์เว็บไซต์



ฟีเจอร์ของ Google Analytics จะสามารถเช็ค

  • จำนวนผู้เยี่ยมชมและผู้เยี่ยมชมที่กลับมา: บอกจำนวนครั้งที่มีผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ รวมถึงจำนวนครั้งที่คนเดิมกลับมาเยี่ยมชมใหม่อีกครั้ง ซึ่งช่วยให้คุณทราบว่าเว็บไซต์ของคุณมีความน่าสนใจและกลับมาเยี่ยมชมอีกครั้งหรือไม่
  • แหล่งที่มาของผู้เยี่ยมชม: บอกว่าผู้เยี่ยมชมมาจากที่ไหน เช่น มาจากการค้นหาในเครื่องมือค้นหา การเปิดโฆษณา การเชื่อมโยงจากเว็บไซต์อื่น ๆ เป็นต้น ช่วยให้คุณเข้าใจว่าแหล่งที่มาของผู้เยี่ยมชมมาจากช่องทางใด (ซึ่งจะต่างจาก Google Search Console ที่มาจาก Google Search เพียงอย่างเดียว)
  • คำค้นหา (Search Queries): บอกเกี่ยวกับคำค้นหาที่ผู้เยี่ยมชมใช้เพื่อเข้าถึงเว็บไซต์ของเรา ช่วยให้เราเข้าใจว่าคำค้นหาใดที่น่าสนใจและที่มีการค้นหาอย่างเต็มที่จาก Keyword Research Plan ที่เราวางไว้
  • พฤติกรรมผู้เยี่ยมชม: บอกเกี่ยวกับการเข้าชมหน้าเว็บไซต์แต่ละหน้า ระยะเวลาที่อยู่ในเว็บไซต์ อัตราการส่งต่อหรือเปิดดูหน้าในเว็บไซต์ เป็นต้น ช่วยให้คุณเข้าใจพฤติกรรมและทิศทางการใช้งานของผู้เยี่ยมชมในเว็บไซต์
  • การแสดงความสนใจในเว็บไซต์: บอกเกี่ยวกับการกระทำของผู้เยี่ยมชมในเว็บไซต์ เช่น การกรอกแบบฟอร์ม การกดปุ่ม การซื้อสินค้า เป็นต้น ช่วยให้คุณทราบว่าผู้เยี่ยมชมกำลังทำอะไรในเว็บไซต์ของเรา
  • การติดตามการเปิดดูการโฆษณา: ให้ข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของการโฆษณาในเว็บไซต์ของเรา ซึ่งช่วยให้คุณตรวจสอบว่าการโฆษณาของเรามีผลให้ผู้เยี่ยมชมกดดูหรือไม่
  • การวิเคราะห์การนำทาง (Navigation): ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการวิเคราะห์การนำทางในเว็บไซต์ เช่น การคลิกลิงก์ในเมนูหรือการนำทางระหว่างหน้า ช่วยให้เราเข้าใจว่าผู้เยี่ยมชมไปที่หน้าไหนและมีเนื้อหาอะไรที่ทำให้พวกเขาเข้าถึงหน้า


หน้าภาพรวม


จากภาพตัวอย่างคือฟีเจอร์ "ภาพรวมรายงาน" ของ Google Analytics แสดงข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับประสิทธิภาพของเว็บไซต์ contentmastery.io ในช่วงวันที่ 14 มิ.ย. - 11 ก.ค. 2024 ดังนี้

1. ตัวชี้วัดหลัก

  • ผู้ใช้: 606 คน
  • ผู้ใช้ใหม่: 576 คน
  • เวลาในการมีส่วนร่วมโดยเฉลี่ย: 1 นาที 3 วินาที
  • รายได้ทั้งหมด: $0.00 (ยังไม่ได้เซ็ตตัว conversion tracking)

2. กราฟแนวโน้ม
   แสดงจำนวนผู้ใช้รายวัน โดยมีจุดสูงสุดประมาณ 100 คนในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม และมีแนวโน้มลดลงเล็กน้อยหลังจากนั้น

3. ผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่

  • ในช่วง 30 นาทีที่ผ่านมา: 1 คน
  • แผนภูมิแท่งแสดงผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่แบ่งตามประเทศ โดยมีประเทศไทยเพียงประเทศเดียว

4. ผู้ใช้ใหม่มาจากที่ใดบ้าง

  • แสดงแหล่งที่มาของผู้ใช้ใหม่ โดยทั้งหมดมาจาก Organic Search

5. แคมเปญยอดนิยมของคุณคืออะไรบ้าง

แสดงประสิทธิภาพของแคมเปญต่างๆ โดยมี Organic Search เป็นช่องทางหลักที่นำผู้ใช้มายังเว็บไซต์ ด้วยจำนวน 372 ครั้ง ตามด้วย Direct ที่ 305 ครั้ง


ฟีเจอร์ Time on Page

นี่เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่สำคัญของ Google Analytics เลยครับ ทำให้เราทราบเวลาที่ผู้ใช้ ใช้ไปกับหน้าเว็บของเรา



ซึ่งฟีเจอร์ "เวลาบนหน้าเว็บ (Time on Page)" เป็นตัวชี้วัดสำคัญที่แสดงถึงระยะเวลาโดยเฉลี่ยที่ผู้ใช้ใช้ในการอ่านหรือมีปฏิสัมพันธ์กับหน้าเว็บแต่ละหน้าของเว็บเรา ก่อนที่จะเปลี่ยนไปยังหน้าอื่นหรือออกจากเว็บไซต์ ซึ่งข้อมูลนี้ช่วยให้เราเข้าใจว่าเนื้อหาใดที่ดึงดูดความสนใจของผู้ใช้ได้มากที่สุด และหน้าไหนที่อาจต้องการการปรับปรุง

จากข้อมูลที่เห็นในภาพ เราสามารถสังเกตได้ว่าหน้าเว็บต่าง ๆ มีเวลาในการมีส่วนร่วมที่แตกต่างกัน เช่น

  • หน้าหลัก (home page) มีเวลาเฉลี่ย 51 วินาที
  • ในขณะที่หน้าเกี่ยวกับการออกแบบ SEO Friendly URL มีเวลาเฉลี่ยสูงถึง 47 วินาที ซึ่งอาจบ่งชี้ว่าเนื้อหาในหน้านี้มีความน่าสนใจและให้ข้อมูลที่มีคุณค่าแก่ผู้อ่าน

การวิเคราะห์ "เวลาบนหน้าเว็บ" ร่วมกับตัวชี้วัดอื่น ๆ เช่น อัตราการตีกลับและจำนวนหน้าต่อการเข้าชม จะช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเราสามารถใช้ข้อมูลนี้เพื่อปรับปรุงเนื้อหา ออกแบบโครงสร้างเว็บไซต์ใหม่ หรือพัฒนากลยุทธ์การตลาดดิจิทัลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังในการตีความข้อมูลนี้ เนื่องจากเวลาที่นานไม่ได้หมายความว่าดีเสมอไป และเวลาที่สั้นก็ไม่ได้หมายความว่าแย่เสมอไปครับ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของหน้าเว็บนั้น ๆ และพฤติกรรมที่คาดหวังจากผู้ใช้ การใช้ข้อมูล "เวลาบนหน้าเว็บ" อย่างชาญฉลาดจะช่วยในการตัดสินใจปรับปรุงเว็บไซต์และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ



เครื่องมืออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง