แชร์ ปสก. ข้อผิดพลาดการตั้งชื่อ Domain Name รวมถึงผลต่อชื่อแบรนด์... SEO และ Sitelink


Son contentmastery.io
Updated: May 6, 2025


ย้อนกลับไปช่วงประมาณกว่า 3 ปีที่แล้ว เป็นช่วงที่เริ่มต้นเว็บ Content Mastery แรก ๆ

ก็เป็นเรื่องปกติใช่ไหมครับเวลาที่เราจะสร้างเพจหรือสร้างแบรนด์อะไรสักอย่างขึ้นมา และแน่นอนว่าก็ต้องมีการคิดชื่อแบรนด์ก่อน


ผมก็คิดไปคิดมาจนได้ชื่อว่า "Content Mastery" (ประมาณว่าผู้เชี่ยวชาญด้านคอนเทนต์อะไรทำนองนี้) และสุดท้ายก็ต้องมีการจดโดเมนให้ได้ชื่อเดียวกันหรือใกล้เคียงกันสุดอย่าง  contentmastery.io (ใช้ TLD เป็น .io)

และแนวทางเว็บก็เป็นไปตามชื่อโดเมนเป๊ะ ๆ มีการทำคอนเทนต์เกี่ยวกับแพลตฟอร์มต่าง ๆ แบบยับ ๆ เช่น การยิงแอดบน Facebook และแน่นอนที่ขาดไม่ได้ก็คือเกี่ยวกับ SEO


แต่พอทำไปทำมาสักพัก ก็เริ่มรู้สึกว่า เราจะทำคอนเทนต์ไหวรึหลายหัวข้อแบบนี้ ทั้ง

  • การทำ SEO
  • การยิงแอดบน Facebook
  • และคอนเทนต์การตลาดอื่น ๆ ประปรายอีกบ้าง
Note: เหตุผลที่เลือกทำคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับการยิงแอด Facebook เพราะเห็นว่ามันค่อนข้าง mass และมี potential ค่อนข้างเยอะ ทั้งลองเทียบดูคลิปใน YouTube ที่เกี่ยวกับ SEO และยิงแอด Facebook ตัวที่เป็น SEO คนดูหลักร้อยหลักพัน ส่วนเกี่ยวกับยิงแอด FB คือตัวพีค ๆ คนดูเป็นหลักแสนเลย เกือบล้านก็มี คือพูดง่าย ๆ มีโอกาสได้ลูกค้าเยอะกว่าเห็น ๆ



เคยทำคอนเทนต์ทั้งที่เกี่ยวข้องกับ Facebook และ TikTok



เนื้อหาก็สมกับชื่อเว็บแหละตอนนั้น คอนเทนต์ทุกแพลตฟอร์มจริงจัง


แต่คิดไปคิดมา (อาจจะบวกด้วยการทำคอนเทนต์ FB ads แล้วไม่ปังด้วยมั้ง) จึงได้ขจัดความโลภของตัวเองออก สุดท้ายก็เลยคิดว่าคงทำไม่ไหว ทั้งหัวข้อในการทำคอนเทนต์ที่ดูกว้างเกินไป เวลาและรีซอร์สที่จะลงไปทำคงไม่พอ และอาจจะได้คอนเทนต์ที่ไม่มีคุณภาพเท่าที่ควรจะเป็น นำมาซึ่งคนจะจดจำเราไม่ได้

ดังนั้นผมจึงตัดสินใจตัดพวก Facebook ads หรือคอนเทนต์จิปาถะอื่น ๆ ออกทั้งหมด เหลือไว้แค่เพียง SEO

ความผิดพลาดในการตั้งชื่อแบรนด์และโดเมนเนม

คือคำว่า Content Mastery ฟังดูก็เหมือนจะดูโอเคร เพราะมันมีคีย์เวิร์ดเช่น content อยู่ในนั้น แต่ที่จริงแล้วมันเป็นชื่อที่ ไม่ unique (ไม่เฉพาะเจาะจง) ไม่มีความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองเลย แถม content ก็คือ content อะไรล่ะ คนจะรู้ไหม?

ลองจินตนาการว่าถ้าเพื่อน ๆ ไม่ได้รู้จัก Content Mastery มาก่อน คงคิดว่าเว็บหรือแบรนด์นี้คงเกี่ยวกับการเป็นผู้เชี่ยวชาญการทำคอนเทนต์หรือไม่นะ ซึ่งอันนี้แค่ตัวแบรนด์เองมันก็ค่อนข้างสื่อสารผิดพลาดแล้ว สู้ไปตั้งคีย์ seo keyword ในโดเมนตรง ๆ เลยไม่ดีกว่าหรือ เช่น seomastery อะไรแบบนี้


จากสิ่งนี้นี่เองทำให้ผมคิดได้ว่า เฮ้ยถ้านายจะเน้นแบรนดิ้ง ไม่จำเป็นต้องมีคีย์เวิร์ดในโดเมนก็ได้เว้ย ดูตัวอย่างง่าย ๆ ชัด ๆ เลยคือ Google, Adidas, TikTok อะไรพวกนี้ จะเห็นว่าพอคนพูดถึงชื่อเหล่านี้ เพื่อน ๆ คงรู้ทันทีเลยใช่ไหมครับว่าหมายถึงอะไร


นี่แหละครับ สิ่งที่ผมได้ตระหนักโดยแท้ว่า การตั้งชื่อแบรนด์ ถ้าเราคิดจะรันเว็บยาว ๆ ไม่อยากปวดหัวกับการรีแบรนด์หรือเปลี่ยนชื่อแบรนด์ใหม่ ควรจะทำให้ชื่อมันเฉพาะเจาะจงตั้งแต่แรกเลย คือควรทำให้มันถูกต้องตั้งแต่ day 1 (ถ้าเป็นไปได้)

จากประสบการณ์ที่ทำเว็บมาหลากหลายเว็บไซต์ เว็บที่ตั้งชื่อแบบไม่ซ้ำคนอื่นหรือ unique ไปเลย มันจะทำให้พอเวลาเราเสิร์ชใน Google (โดยเฉพาะเสิร์ชด้วยชื่อแบรนด์ตรง ๆ) มันจะ ขึ้น Sitelink ได้ไวกว่าครับ (แต่เว็บเราต้องมีโครงสร้างที่ดี มีคนเข้าพอประมาณนึงด้วย) แล้วการที่มี Sitelink ขึ้นมานี่เองผมว่ามันทำให้เว็บเราดูน่าเชื่อถือขึ้นมาอีกระดับนึงอยู่ครับ เหมือน Google การันตีให้กลาย ๆ ว่าเว็บนี้มีตัวตน มีความสำคัญนะ อะไรทำนองนี้ (หรือเพื่อน ๆ คิดว่าอย่างไรครับ?)




ซึ่งเรื่องนี้ ไม่ใช่แค่ผมคิดไปเอง มีข้อมูลและแนวทางจากผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO หลายคน รวมไปถึงแนวปฏิบัติของ Google เองที่บอกไปในทิศทางเดียวกันครับ

แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่า Google จะแสดง Sitelinks โดยอัตโนมัติ เมื่ออัลกอริทึมของ Google มองว่ามันมีประโยชน์ต่อผู้ใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีคนค้นหา ชื่อแบรนด์หรือชื่อเว็บไซต์ของเราโดยตรง (ที่เราเรียกว่า Navigational Queries)

ทีนี้... ความ unique หรือความเฉพาะเจาะจงของชื่อแบรนด์ มันเข้ามาเกี่ยวข้องตรงนี้แหละ ถ้าชื่อแบรนด์เรามัน unique มาก ๆ ไม่ซ้ำใคร แบบที่พอคนเสิร์ชชื่อนี้ Google รู้ทันทีเลยว่า "อ๋อ เขากำลังหาเว็บนี้/แบรนด์นี้" มันก็จะง่ายสำหรับ Google ที่จะแสดง Sitelinks ขึ้นมาสำหรับคำค้นหานั้น ๆ เพราะมันชัดเจนว่าผู้ใช้ต้องการข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์เราโดยตรง (แถมยังวัดผลได้ง่ายว่าคนเสิร์ชด้วยชื่อแบรนด์ของเรามาจริง ๆ) บวกกับโครงสร้างเว็บที่ทำไว้โอเคร และมี traffic เข้าพอประมาณ และความ mature ของเว็บที่รันมาแล้วสักพักใหญ่ ๆ (อาจจะปีหรือสองปี แล้วแต่เว็บ) มันก็จึงไม่มีอะไรมาขัดขวางที่จะไม่ให้เกิด Sitelink ใช่ไหมครับ

ผมจะขออนุญาตยกตัวอย่างสักเว็บ เช่น ในวงการ SEO นี้เลยละกัน เว็บแรก ๆ ที่หลายคนคงจะนึกถึงเกี่ยวกับเอเจนซี่ด้านนี้ เช่น Primal (ขออนุญาต Primal ด้วยละกันนะครับ เดี๋ยวผมให้ backlink กลับไปล่ะกันเนอะ)


เว็บ Primal



เห็นไหมครับว่า Primal เว็บ SEO ชื่อดัง ก็ยัง Sitelink ไม่ขึ้น ทั้ง ๆ ที่เว็บนี้มีค่า authority ในด้านนี้ค่อนข้างสูง ก็เพราะว่าชื่อแบรนด์หรือโดเมนเนมไม่ Unique นั่นเองครับ ไปซ้ำกับชื่ออื่น ๆ ที่มีชื่อเสียงอยู่ก่อนหน้าแล้ว ซึ่งตามภาพก็คือซีรี่ย์ชื่อดังชื่อ Primal


กลับมาที่เว็บเรา ถ้าชื่อแบรนด์เรามันมีความหมายกว้าง ๆ หรือเป็นคำทั่วไป (Generic) อย่างเคส "Content Mastery" ของผมนี่แหละ Google อาจจะสับสนได้ว่า คนที่เสิร์ชคำนี้ เขากำลังหาแบรนด์ผมจริง ๆ หรือแค่กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับ "การทำคอนเทนต์ให้เชี่ยวชาญ" กันแน่?

ซึ่งความไม่ชัดเจนตรงนี้แหละครับ ที่อาจจะทำให้ Sitelinks สำหรับชื่อแบรนด์เรามันขึ้นยากขึ้น หรือขึ้นช้ากว่าเว็บที่มีชื่อเฉพาะเจาะจงไปเลย (เอาจริง ๆ  ส่วนตัวคิดว่า ถ้าผมตั้งชื่อ domain name ให้ unique กว่าเดิม ไม่ซ้ำคีย์อื่น Sitelink ของเว็บควรจะขึ้นมาสักพักแล้วครับ)

และก็ยังดีอยู่ครับ ที่ตอนนี้ขึ้นมาแล้ว (ทั้งที่ควรจะขึ้นก่อนหน้าสักพักใหญ่ ๆ)


Sitelink  ของ Content Mastery ขึ้นมาล่ะ


แต่ก่อนไม่ขึ้น มันก็ดูไม่น่าเชื่อถือ (หรือตรูคิดไปเองหว่า lol)



อย่างใน Google Search Central เองก็เคยให้แนวทางไว้ประมาณว่า Sitelinks จะแสดงเมื่อ Google คิดว่ามันเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ และระบบจะวิเคราะห์โครงสร้างลิงก์ของเว็บไซต์เพื่อหาทางลัดที่จะช่วยประหยัดเวลาให้ผู้ใช้  

ซึ่งการที่ชื่อแบรนด์เรามันชัดเจน ไม่กำกวม มันก็ช่วยให้ Google กำหนดทางลัด (shortcut) ที่เกี่ยวกับแบรนด์เราได้ง่ายขึ้นนั่นเอง (พวกเว็บโครงสร้างดี ๆ มี Internal Link ชัดเจน ก็ช่วยตรงนี้ได้ด้วยเช่นกัน)

ดังนั้น การมีชื่อแบรนด์และโดเมนเนมที่ไม่เหมือนใคร มันจึงเป็นปัจจัยสำคัญทางอ้อมที่ช่วยให้ Google แสดงผล Sitelinks สำหรับชื่อแบรนด์ของเราได้ง่ายขึ้นและเร็วขึ้นจริง ๆ ครับ ซึ่งก็ช่วยเสริมความน่าเชื่อถือให้เว็บเราไปอีกขั้นอย่างที่ผมบอกไปตอนแรก


ในเรื่องผิดพลาดก็ยังพอดีเรื่องที่โอเครอยู่

แต่ถึงชื่อแบรนด์ Content Mastery อาจจะไม่ unique เท่าไหร่ แต่ก็ยังมีจุดที่ผมคิดว่าตัดสินใจได้ค่อนข้างโอเคอยู่นะครับ นั่นคือการเลือกใช้ TLD (Top-Level Domain) เป็น .io

คืออย่างที่หลายคนในสายเทคฯ ทราบกันดีว่า .io มักจะถูกเชื่อมโยงกับความเป็น Tech, Startup หรืออะไรที่เกี่ยวกับ Input/Output ซึ่งมันบังเอิญไปสอดคล้อง กับทิศทางที่ผมโฟกัสในเวลาต่อมาพอดีครับ เพราะผมไม่ได้มองตัวเองเป็นแค่คนทำคอนเทนต์ SEO แบบ Marketing จ๋า ๆ เพียว ๆ แต่มองไปถึง Web Marketing ในภาพรวม

โดยเฉพาะการประยุกต์ใช้สกิลด้าน Web Dev เข้ากับงาน SEO ด้วย ดังนั้นการใช้ .io มันเลยค่อนข้างจะสื่อสารความเป็น Tech ในตัวตนของแบรนด์ออกไปได้ดีกว่าการใช้ .com ที่ดูจะ Commercial ทั่วไป

เพราะเอาจริง ๆ การทำ SEO ยุคนี้ โดยเฉพาะสาย Technical SEO หรือ Web Marketing ที่ผมเน้น มันหนีไม่พ้นเรื่องโค้ดดิ้ง เรื่องโครงสร้างเว็บ เรื่อง Performance Optimization หรือแม้กระทั่งการเขียน script เพื่อทำ automation ต่าง ๆ ซึ่งสกิล Web Dev มันเข้ามาช่วยตรงนี้ได้เยอะมาก ทำให้การใช้ .io มันเหมือนเป็นการส่งสัญญาณกลาย ๆ ให้กับคนที่อยู่ในวงการหรือคนที่สนใจเรื่อง Technical ลึก ๆ ได้เห็นว่า เออเว็บนี้มันมีอะไรมากกว่าแค่บทความหรือสายคอนเทนต์ทั่วไปนะ ดังนั้นการที่ผมจะขยาย service เช่น ไปรับทำพวก automation เกี่ยวกับ SEO ก็ค่อนข้างสอดคล้องกับ TLD

บทเรียนที่ได้จากเรื่องนี้คือ ถ้าเราไม่ได้มีรีซอร์สเยอะ อย่าทำเว็บจับฉ่าย จงเลือก master ทางใดทางหนึ่งเพื่อเป็น expert ในด้านนั้น ๆ เพราะมันจะได้สอดคล้องทั้งเรื่องแบรนดิ้ง รวมไปถึง EEAT ของ SEO
และบทเรียนสำคัญอีกข้อก็คือ 'ชื่อแบรนด์' สำคัญ เลือกให้ดี เลือกให้ชัด เลือกให้ unique ตั้งแต่ day 1 จะช่วยให้การสร้างแบรนด์ของเราในระยะยาวราบรื่นขึ้นเยอะเลยครับ

ถ้าตกหล่นหรือผิดพลาดประการใดต้องขออภัยครับ แชร์หรือแนะนำกันเข้ามาได้ ยินดีรับฟีดแบ็คครับ

Son contentmastery.io
Son contentmastery.io

ที่ปรึกษาด้าน Web & SEO สำหรับองค์กรและเจ้าของธุรกิจ ชอบเขียนและแชร์ความรู้ เชื่อว่าความรู้คือสิ่งที่มีมูลค่ามากที่สุดและจะติดตัวเราไปในทุกที่ ให้อะไรก็คงไม่เท่าให้ความรู้ หลงไหลในธรรมชาติและการเดินทาง เป็นพ่อของแงว ๆ อยู่หลายตัว เสพติดกาแฟ อเมริกาโน่


อัพสกิล SEO & Web Marketing?

ลดระยะเวลาลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง เรียน SEO ด้วยแนวทางปฎิบัติที่ดีที่สุด (Best Practices) สอนครอบคลุมในทุกมิติ ทั้งด้าน On-Page, Technical, Web Analytics & Report ฯลฯ เพื่อให้ผู้เรียนไปต่อยอดกับเว็บไซต์ธุรกิจของตัวเองได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับองค์กร บริษัทต่าง ๆ