วันนี้ผมจะมาสรุปเกี่ยวกับ (March) Core Update 2024 ซึ่งทาง Google บอกว่านี่คือหนึ่งใน Core Update ครั้งใหญ่และซับซ้อนสุดที่ Google เคยมีมา (เพราะมันมีความเกี่ยวข้องและไป effect กับหลายระบบในการอัปเดตครั้งนี้)
โดยจุดประสงค์หลักในการอัปเดตครั้งสำคัญนี้ คือ เน้นคัดกรองเนื้อหาคุณภาพ ลดสแปมคอนเทนต์ และจะมีการลดสัดส่วนของคอนเทนต์ที่ไม่มีประโยชน์บนหน้าเสิร์ชลงไปมากกว่า 40% (คนที่ทำเนื้อหาดีมีประโยชน์ ยิ้มรอเลย)
และนี่คือ 3 ประเด็นหลักในส่วนของ Spam Policy ใน Core Update ครั้งนี้ครับ
- 1. Scaled Content
- 2. Expired Domain
- 3. Site Reputation
1. Scaled content
Scaled Content เป็นการสร้างคอนเทนต์จำนวนมากในเวลาอันสั้น โดย spam policies ใหม่นี้ต่อเนื่องมาจากนโยบายสแปมเดิมของ Google Search โดยจะเกี่ยวกับคอนเทนต์ที่สร้างแบบ auto-generated ไม่ว่าคอนเทนต์จะสร้างขึ้นโดยโปรแกรมอัตโนมัติรูปแบบต่าง ๆ ประมาณว่าลงบทความหลาย ๆ บทความภายในเวลาเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน อันนี้ถึง bot ไม่รู้แต่คนอ่านก็น่าจะรู้ด้วยถ้าดูจากวันที่ในบทความ (ใครมันจะไปทำบทความเยอะ ๆ ได้ในเวลาสั้น ๆ เนอะ คนดูก็คงรู้แหละ) หรือแม้แต่ในอีกรูปแบบหนึ่งปัจจุบันที่เหล่า content creators มักจะพากันสร้างด้วย Generative AI เช่น ChatGPT, Gemini, Claude, ฯลฯ เป็นต้น โดยบทความที่มาจาก GenAI อย่าลืมเกลาให้ดีด้วยใน final version ด้วยนะครับ
2. Expired domain
การใช้โดเมนหมดอายุ คือ การซื้อโดเมนเนมที่หมดอายุแล้วนำมาใช้ใหม่ โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อ manipulate ผลการค้นหาใน Search Engine โดยการโพสต์เนื้อหาที่มีประโยชน์ต่อผู้ใช้น้อยมากหรือแทบจะไม่มีเลย หรือทำให้คนอ่านสับสนว่าเนื้อหาที่สร้างขึ้นมาใหม่หลังจากไปซื้อโดเมนมาแล้วมีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหาเดิม (ทั้งที่ไม่เกี่ยวข้องกัน) อะไรทำนองนี้
และรวมไปถึงตัวสำคัญที่เราจะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ เอาไปทำ 301 Redirect เพื่อรับพลังของ backlinks ในเว็บหมดอายุเว็บนั้น (เพราะ backlink ที่ชี้มาที่เว็บนั้นมันไม่ได้หมดอายุไปด้วยเด้อ)
แล้วการใช้งานโดเมนที่หมดอายุ มาเพื่อ manipulate เสิร์ชเอนจินนั้นทำได้อย่างไร? มาดูตัวอย่างกันครับ เช่น
- นาย A ซื้อโดเมนที่เคยใช้โดยเว็บไซต์ด้านการแพทย์
- นาย A นำโดเมนนี้ไปสร้างเนื้อหาเกี่ยวกับเว็บคาสิโน หรือเว็บอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องจากเว็บเดิมเลย
- นาย A หวังว่าจะบรรลุเป้าหมายเพื่อ rank ลำดับแรก ๆ ในหน้าแรก Google โดยอาศัยชื่อเสียงของโดเมนจากเจ้าของเดิมที่มี Site Reputation หรือ Domain Authority อยู่สูงเป็นทุนเดิม
- นาย A เริ่มทำ 301 Redirect โดยชี้ลิงก์ไปท่ีลิงก์ใหม่ (ได้ค่าพลังลิงก์ link juice bla bla ... หรือค่า authority ต่าง ๆ ในลิงก์เดิมส่งผ่านไปให้ลิงก์ของเว็บใหม่) เป็นอันจบ อันดับพุ่ง!! นี่คือวิธีแบบเดิมที่ได้ผล ครั้งนี้ Google จะพัฒนาอัลกอฯ เพื่อมาตรวจจับอันนี้แบบเต็ม ๆ
ตัวอย่างเว็บ expireddomain.net ที่มีการเปิดให้ซื้อโดเมนหมดอายุ
3. Site reputation abuse
Site reputation abuse คือ การแอบอ้าง อาศัยชื่อเสียงเว็บไซต์อื่นเพื่อผลทาง SEO โดยเหล่านักทำ SEO ที่ช่ำชองในวงการ มักจะเรียกอันนี้ไว้อีกอย่างว่า "Parasite SEO"
โดยเนื้อหาจาก third party (เว็บที่เอาบทความหรือคอนเทนต์ไปฝาก) ที่ถูก publish อยู่บนเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ด้านการศึกษา หรือของสถาบันหรือสถานศึกษา ฯลฯ โดยทำการ publish เนื้อหาเพื่อหวังผลการค้นหาที่ดี อันนี้ Google ก็ถือว่าเป็นสแปมรูปแบบหนึ่งใน Core Update ครั้งนี้
คำถามคือถ้าเป็นโพสต์ที่เป็น advertorial (บทความโฆษณา) ก็จะโดนด้วยหรอ? อันนี้ Google บอกว่า Google เข้าใจส่วนนี้ดี ดังนั้นถ้าเป็นเนื้อหาโฆษณาที่มีการผสมผสานกันได้อย่างลงตัว โดยวงเล็บตัวโต ๆ ครับว่า "ต้องมีเนื้อหาเป็นตีมเดียวกันกับเว็บไซต์ต้นทาง" หมายความว่าถ้าเว็บเป็นเว็บการศึกษา สิ่งที่เราต้องไปทำโพสต์ advertorial ก็ต้องเกี่ยวกับการศึกษา !!
แนะนำ: รับทำ SEO โดยทีมงาน contentmastery.io เราจะไม่มีวันทำอะไรใด ๆ เกี่ยวกับสแปม หรือไม่จะสายเทาหรือสายดำเด็ดขาด ดูแลพาร์ทเนอร์ของเราประดุจญาติพี่น้องโดยแท้
HCU ถูกรวมเข้ากับ Core Update (Cr.Search Engine Land)
HCU (Helpful Content Update) หรือที่เรียกว่า September 2023 HCU ที่เจ้าของเว็บทั่วโลกบ่นอันดับตกจากเจ้าอัลกอตัวนี้ ก็ถูกรวมไว้ใน Core Update เรียบร้อย จะไม่มีการแยกอัปเดตต่างหาก
September 2023 HCU ที่คนบ่นกันระงม (Image source: reddit.com/r/seo)
บทความแนะนำ: ทำความรู้จัก Helpful Content Update
Google บอกเราหมดหรือไม่? (คหสต.)
สุดท้ายแล้ว Google นั้นไม่สามารถที่จะบอกเราได้ทั้งหมดครับ ในเบื้องลึกเบื้องหลังการทำงานของอัลกอฯ (ที่ sensitive) เพราะว่าถ้าบอกหมดทุกอย่างก็จะทำให้เหล่า spammers รู้จักช่องโหว่ของระบบ จนทำให้ผลการเสิร์ชของ Google แย่ลงกว่าเดิม จนมีแต่ spamming contents ได้เลย ซึ่งมันจะส่งผลเสียต่อผู้ใช้งานของ Google และส่งผลโดยตรงต่อ Google ที่จะทำให้คนหันไปใช้ Search Engine เจ้าอื่นหรือไม่ก็ GenAI ซึ่งตรงนี้ก็เข้าใจได้ครับ
Content Creators ต้องปรับตัวยังไง?
ไม่ต้องทำอะไรเป็นพิเศษ (Google บอก) เอาเป็นว่ารอดู effect ละกันครับหลังจาก roll-out เสร็จหลัง 5 พฤษภาคมนี้ ถ้า traffic หรืออันดับตกมาก ๆ แบบผิดปกติ นั่นก็แสดงว่าคุณโดน Core Update (March) นี้เข้าให้แล้ว
แต่ถ้าเพื่อนมั่นใจว่าเราได้สร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ เน้นผู้ใช้เป็นหลัก (people first) มีประโยชน์ มีความน่าเชื่อถือ ก็คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา เผลอ ๆ อาจจะอันดับดีกว่าเดิม (เพราะพวก spammers อันดับตกนั่นเอง)
คนที่ได้รับผลกระทบเต็ม ๆ (คหสต.)
นอกจากเจ้าของเว็บไซต์ที่อาจจะได้รับ effect จากการอัปเดตในครั้งนี้ นี่คือเหล่าคนที่เกี่ยวข้องโดยตรง ที่คิดว่าจะได้รับผลเต็ม ๆ เลยครับ
- Domain (expired) provider: ที่เป็นตัวกลางทำหน้าที่ซื้อขายโดเมนเก่าที่หมดอายุ
- Backlink Seller: คนที่เป็นตัวแทนซื้อขายแบ็คลิงก์
- (Reputation) Website Owner: เจ้าของเว็บที่ขาย advertorial หรือ guest post เพราะว่าอาจจะได้รับผลกระทบในส่วนของที่เป็น Site Reputation ก็อาจจะขาดรายได้ส่วนนี้ไป (ก็ต้องชั่งน้ำหนักเอาว่าจะเลือกเงินหรือโดนลงโทษจาก Google แต่ใครจะให้เว็บตัวเองโดนลงโทษล่ะเนอะ !!)
- ฯลฯ (ช่วยคิดหรือแชร์เข้ามาได้ครับ)
ขออนุญาตขายของครับ: 📒 คอร์ส SEO Online 2024 ใกล้จะปิดรับโปรแล้วนะครับ ใครที่ยังไม่ได้ลง สามารถลงทะเบียนไว้รอเรียนได้เลยครับ พลาดครั้งนี้ไม่มีราคานี้แล้ว
อ่านแล้วเป็นอย่างไรบ้างครับ ผิดพลาดส่วนไหนก็ขออภัยและชี้แนะกันเข้ามาได้ อย่างน้อยก็ได้แต่หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ต่อเพื่อน ๆ นักทำ SEO, content creators, website owners, entrepreneurs ทุกท่านนะครับ สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นหรือแสดงความคิดเห็นเข้ามาได้ที่ โพสต์เฟซบุ๊ก Core Update 2024 ได้เลยครับ
แหล่งที่มา:
