• Home
  • Blog
  • 5 ขั้นตอน เขียนบทความ SEO Content ให้ติดหน้าแรก Google

5 ขั้นตอน เขียนบทความ SEO Content ให้ติดหน้าแรก Google

Son Content Mastery
Updated: Sept. 2, 2023


เรามีบทความดี ๆ ที่เขียนไว้ซะดิบดี แต่ก็คงได้ประโยชน์ไม่เต็มที่ถ้าบทความที่เขียนไว้ ไม่มีคนเปิดอ่านหรือค้นหาเจอบทความของเรา?

และในทางกลับกัน เราทำ SEO ดี แต่คนเทนต์ไม่ดี  คนเข้ามาเจอเว็บหรือบทความนั้นของเรา สุดท้ายแล้ว เขาก็จะรู้สึกได้เองว่า คอนเทนต์เราไม่ตอบโจทย์ ไม่มีคุณภาพ จนในที่สุดเขาเหล่านั้นก็จะเกิดภาพจำที่ไม่ดีต่อเว็บไซต์หรือแบรนด์ของเรา ไม่กลับมาเข้าเว็บเราอีก หรือถ้าเสิร์ชเจอบทความของเว็บเรา ก็อาจจะไม่คลิกเปิดอ่านอีกเลยก็ได้ ดังนั้นสองส่วนนี้จึงมีความเกี่ยวข้องกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 

ดังนั้น ยิ่งคอนเทนต์ดี น่าเชื่อถือ เว็บหรือแบรนด์ของเราก็จะดูดีและน่าเชื่อถือตามไปด้วย ถูกไหมครับ ? บทความนี้เราจะมาแนะนำตัวอย่างการเขียนบทความ SEO พร้อมสอนวิธีการเขียนแบบละเอียดทุกขั้นตอนครับ

SEO Content คืออะไร ?

SEO Content คือคอนเทนต์ที่เราสร้างมาเพื่อให้เสิร์ชหรือค้นหาเจอได้ง่ายใน Google ซึ่งในบริบทนี้จะหมายถึง การทำให้บทความของเราติดหน้าแรกหรือค้นหาเจอได้ง่ายใน Google ซึ่งเป็น search engine ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก 

Content ที่ดีเป็นแบบไหน ?

คอนเทนต์ก็มีมากมายหลากหลายรูปแบบ เช่น Blog post, Video, Podcast ฯลฯ

โดยบทความนี้จะขอกล่าวถึงแบบแรก คือ Blog post หรือคอนเทนต์แนวบทความ (แต่ก็นำแนวคิดนี้ไปประยุกต์ได้หมด) แล้วคอนเทนต์ที่ดี หน้าตามันเป็นยังไง ? คอนเทนต์ดี ๆ ที่ว่านี้มีจุเช็คลิสต์ดังนี้ 

  • ตรงตามที่คนเสิร์ชต้องการ  เนื้อหาครบครัน แก้ไขปัญหาของคนเสิร์ชได้ (อันนี้สำคัญสุด)
  • มีที่มาที่ไป มีแหล่งอ้างอิง น่าเชื่อถือ
  • อ่านหรือทำความเข้าใจได้ง่าย UX ดี (การจัดวางพวกพารากราฟและ headings แท็กต่าง ๆ ดี)
  • การใช้ภาษา ทั้งการพูดหรือเขียน ถูกต้อง ชัดเจน ไม่ใช่พูดหรือเขียนแบบ ผิด ๆ ถูก ๆ
  • (ถ้ามีเพิ่มเติม เพื่อน ๆ สามารถคอมเมนต์บอกผมได้นะครับ)

เมื่อเราติ๊กถูก ครบหมดทั้ง 3 ข้อที่กล่าวมาด้านบน ต่อไปก็เป็นสเต็ปของการปรับให้คนเสิร์ชเจอคอนเทนต์นี้ของเราให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้

เริ่มต้นเขียนบทความให้ติดหน้าแรก Google 

เราจะมาเริ่มลงมือเขียนบทความกันเลยครับ ตั้งแต่ขั้นตอนแรกสุดไปยันขั้นตอนสุดท้ายในการ optimize บทความให้ดีต่อ SEO โดยเราได้ผ่าน การวิเคราะห์คีย์เวิร์ด (Keyword Research) มาแล้ว เพราะว่าเป็นขั้นตอนแรก ๆในการทำ SEO Content เพราะถ้าหากเราไม่วิเคราะห์ก่อน จะกลายเป็นว่าเราเขียนบทความแบบไร้ทิศทาง เพราะเราจะไม่มีทางรู้ได้ว่าบทความของเราที่กำลังเขียนมีคีย์เวิร์ดที่คนค้นหามากน้อยแค่ไหน 

2. เขียน High-Quality Content 

เมื่อเราทำ Keyword Research เสร็จแล้ว ต่อมาก็คือการเขียน High Quality Content หรือคอนเทนต์คุณภาพสูง นี่คือหัวใจสำคัญของการทำบทความให้ติดหน้าแรก Google เลยก็ว่าได้ แล้วเราจะเขียนบทความคุณภาพสูงได้อย่างไร ? หรือมีอะไรที่บ่งบอกว่าบทความนั้นมีคุณภาพสูง ? 

  1. Well-written: ต้องเขียนด้วยทักษะการเขียนและเรียบเรียงที่สุดยอด การที่เราจะเขียนเรื่องไหนได้ดีนั้น แน่นอนว่าความเชี่ยวชาญในเรื่องนั้น ๆ ก็เป็นสิ่งสำคัญมากครับ
  2. Informative: เนื้อหาที่เขียนต้องเป็นประโยชน์ สื่อสารครบทุกประเด็นตาม search intent ที่คนค้นหาคำนั้น ๆ 
  3. Engagingเนื้อหาต้องมีความเกี่ยวข้อง (engage) กับผู้อ่าน
  4. UX ดี ง่ายต่อการอ่านบทความที่เราเขียนนั้นต้องง่ายต่อการอ่านด้วย ลองคิดดูว่า คนเปิดเข้ามาอ่านบทความ แต่กลับรู้สึกว่าบทความที่กำลังอ่านอยู่นั้นไม่เป็นมิตรต่อการอ่านเอาเสียเลย ก็อาจจะทำให้กดออกไปได้เมื่ออ่านไปได้ไม่นาน ดังนั้นการสร้าง UX ที่ดีต่อผู้ใช้งานก็จะอยู่ในหัวต่อไปนี้ครับ

3. UX (User Experience) ต้องดี

อย่างที่ได้เกริ่นไปก่อนหน้าว่า UX ที่ดีนั้นมีความสำคัญมากแค่ไหนสำหรับ SEO โดย UX ที่ดีนั้นแบ่งออกเป็น 4 ส่วนดังนี้

  • หัวข้อหลัก หัวข้อย่อยต้องชัดเจน: การจัดวางหัวข้อต่าง ๆ ต้องชัดเจน ง่ายต่อการอ่าน อ่านแล้วต้องรู้ทันทีว่าส่วนนี้คือหัวข้อหลัก หัวข้อย่อย หัวข้อรอง หรือเป็นส่วนเนื้อหา
  • Font ต้องอ่านง่าย: Font ที่ใช้เขียนนั้นต้องอ่านง่าย สบายตา รวมไปถึงการใช้สีของ Font 
  • Ancho Link ต้องสื่อความหมาย: การลิงก์ไปยังหน้าเว็บเพจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องหรือทำ Internal Linking ภายในเว็บไซต์ของเราเองนั้น ตัว Anchor Tag ควรเขียนให้สื่อความหมาย เพราะทำให้ผู้อ่านสามารถคาดเดาเนื้อหาที่จะคลิกได้ 
  • มีสื่ออื่นๆ ประกอบ เช่น รูปภาพ วิดีโอ อินโฟกราฟิก ฯลฯ: การมีสื่ออื่น ๆ เพื่อช่วยเสริมสร้างความเข้าใจให้กับผู้อ่านได้มากขึ้นจะเป็นการมอบประสบการณ์การใช้งานทีดีต่อผู้ใช้อย่างไม่ต้องสงสัยเลยครับ แต่ต้องใส่เฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น ไม่เช่นนั้นการใส่รูปภาพ ใส่วิดีโอเยอะ ๆ โดยไม่จำเป็น จะทำให้เว็บไซต์เราช้าได้ แทนที่จะสร้าง UX ที่ดีต่อผู้ใช้ กลับกลายเป็นว่าทำให้เว็บโหลดช้า คนอ่านก็อาจจะกดออกจากหน้าเว็บก่อนที่จะได้อ่านเนื้อหาดี ๆ ของเราก็เป็นไปได้เช่นกัน


4. Meta Title และ Description ต้องดึงดูด

อย่างที่ได้เกริ่นไปก่อนหน้าว่า Meta Title นั้นสำคัญมากต่อ SEO มาก เพราะว่ามันคือข้อความที่เห็นได้โดดเด่นที่สุดในหน้า Google Search 

5. แชร์ไปให้โลกรู้

นี่คือขั้นตอนสุดท้าย เมื่อเรามีบทความที่ดีมีคุณภาพสุด ๆ ตามที่เราได้ทำตามขั้นตอนครบทุกขั้นตอนตามด้านบนแล้วนั้น เราก็ต้องแชร์ไปให้โลกรู้ ให้คนเข้าถึงบทความเราได้มากขึ้นครับ นอกจากเรากด publish บทความในหน้าแอดมินหลังบ้านของเราเรียบร้อย เพื่อน ๆ ลืมอะไรไปไหมครับว่า ยังมีช่องทางอื่น ๆ ที่น่าสนใจและจะนำ traffic เข้ามาที่เว็บเราได้เยอะ ๆ เลยก็คือช่องทาง Social Media นี่แหละครับ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, YouTube 

Son Content Mastery
Son Content Mastery

ที่ปรึกษาด้าน Web & SEO สำหรับองค์กรและเจ้าของธุรกิจ ชอบการเขียนและแชร์ความรู้ มีความเชื่อว่าความรู้คือสินทรัพย์ที่มีมูลค่ามากที่สุด ให้อะไรก็คงไม่เท่าให้ความรู้ หลงไหลในการเดินทางท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ เป็นพ่อของแงว ๆ อยู่หลายตัว เสพติดกาแฟเข้าเส้น เมนูประจำคืออเมริกาโน่


อัพสกิล SEO ด่วน?

ลดระยะเวลาลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง เรียน SEO พร้อมหลักการทำงานของเว็บ เข้าใจเบื้องลึกเบื้องหลังการทำงานของเว็บ พร้อมทั้งสามารถเข้าใจส่วนยาก ๆ อื่น ๆ เช่น Technical SEO ได้แบบไม่มีปัญหา คลาสออนไลน์แบบ private กับ Son contentmastery.io (หรืออบรมในองค์กรแบบ in-house ทางผมก็รับครับ) สามารถติดต่อ พูดคุย สอบถามหรือปรึกษากันก่อนได้ครับ